ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน อันตรายหากมองข้าม

โรคหัวใจขาดเลือดเกิดขึ้นได้ทั้งขณะทำงาน เล่นกีฬา หรือขณะพักผ่อน เนื่องจากมีภาวะหลอดเลือดแดงแข็งและมีรอยปริของผนังหลอดเลือด ทำให้มีลิ่มเลือดและไขมันมาเกาะที่ผนังและก่อตัวเป็นตะกรัน เกิดการอุดตันของหลอดเลือด ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้ สาเหตุโรคหัวใจขาดเลือดในปัจจุบันพบว่า มักเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปของแต่ละคน

ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่จัด ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป พฤติกรรมการรับประทานอาหารจนทำให้มีไขมันในเส้นเลือดมากผิดปกติ ความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน เป็นต้น มักพบในเพศชายที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป และในเพศหญิงที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในครอบครัวที่เคยมีประวัติโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ รวมไปถึงสาเหตุโรคกล้ามเนื้อหัวใจอย่างโรคทางพันธุกรรมต่างๆ ที่ปัจจุบันทำให้ผู้ป่วยมีอายุน้อยลง เมื่อมาพบแพทย์ แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด ซึ่งแนวทางการส่งตรวจต่างๆ จะต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยส่วนใหญ่ แพทย์จะทำการส่งตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อดูว่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจนั้น แสดงลักษณะของการมีหัวใจขาดเลือดหรือไม่ และบางรายจะส่งตรวจเลือด การตรวจหัวใจด้วยเครื่องเสียงสะท้อนความถี่สูง หรือการใส่สายสวนหลอดเลือดหัวใจเพื่อหาว่ามีการอุดตันของเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจหรือไม่ หรือต้องได้รับการสวนหัวใจอย่างเร่งด่วนหรือไม่ ด้านการรักษาสามารถทำได้ด้วยวิธีการใช้ยา การขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน และ การผ่าตัดบายพาสหัวใจ ซึ่งจะพิจารณาตามความเหมาะสม และความรุนแรงของอาการ รวมทั้งดุลยพินิจของแพทย์ร่วมด้วย เราสามารถห่างไกลจากโรคหัวใจขาดเลือดได้อย่างง่ายๆ ด้วยการหลีกหนีจากกลุ่มผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ ด้วยการหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หรืออย่างน้อย 5 ครั้ง/สัปดาห์ รับประทานอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลอย่างเหมาะสม ระวังควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกิดโรคอ้วน ลดหรือเลี่ยงการสูบบุหรี่ และสังสรรค์แต่พอดี รวมทั้งหมั่นบริหารอารมณ์ให้แจ่มใส ห่างไกลความเครียด ที่สำคัญการตรวจสุขภาพและตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำทุกปี

Scroll to Top